สัญญาทองคำล่วงหน้าปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) และอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายคนยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้จะมีสัญญาณว่าเงินเฟ้อชะลอตัว
นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐที่กำลังเติบโต แทนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำและดอลลาร์
- สัญญาทองคำร่วง 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.36% สู่ 1,807.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดต่ำลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.
- สัญญาเงินลดลง 39.3 เซนต์หรือ 1.89% ที่ 20.349 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลตตินั่มขึ้น $13.3 หรือ 1.41% ที่ 959.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลเลเดียมฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 42.50 ดอลลาร์หรือ 1.9% ที่ 2,288.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โกลด์ฟิวเจอร์ถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากที่เฟดกล่าวว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งยังคงสูงอยู่
ประธานเฟดแห่งชิคาโกกล่าวว่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคม นี่เป็นการอ่านในเชิงบวกครั้งแรกนับตั้งแต่เฟดเริ่มเข้มงวดนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างไม่อาจยอมรับได้ และเฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ประธานเฟดซานฟรานซิสโกกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และไม่ได้ตัดทอนความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่สามติดต่อกันในการประชุมเดือนกันยายน
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group แสดงให้เห็นว่านักลงทุน 65.5% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นระหว่าง 2.75% ถึง 3.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน และมีเพียง 34.5% เท่านั้นที่คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้ผลิตลดลง 0.5% ในเดือนกรกฎาคมจากเดือนก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมิถุนายน
จากข้อมูลของสำนักสถิติแรงงาน การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 14,000 เป็น 262,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว