สัญญาทองคำปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ (12 ส.ค.) เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับดอกเบี้ย
- สัญญาทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 8.30 ดอลลาร์หรือ 0.46% สู่ 1,815.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.3% ในสัปดาห์นี้ นี่เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สี่ ซึ่งเป็นแนวที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564
- สัญญาเงินเพิ่มขึ้น 34.90 เซนต์หรือ 1.72% ที่ 20.698 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลตตินั่มอยู่ที่ 959.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลเลเดียมลดลง 69.00 ดอลลาร์ หรือ 3% ที่ 2,219.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงกว่าสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
ราคาทองคำยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายคนยังคงสนับสนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าจะมีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัว
นอกจากนี้ นักลงทุนได้ลดความต้องการสัญญาทองคำในฐานะที่หลบภัย มหาวิทยาลัยมิชิแกนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 55.1 ในเดือนสิงหาคม เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 52.5 จาก 51.5 ในเดือนกรกฎาคม
สำหรับปีหน้า ผู้บริโภคคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 5.0% ลดลงจาก 5.2% ที่สำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว และในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.0% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.9% ที่สำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว