ราคาน้ำมันเผชิญกับภาวะตกต่ำในวันจันทร์ (29 เมษายน) ตามรายงานของผู้นำกลุ่มฮามาสที่มีส่วนร่วมในการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา ลดความตึงเครียดในภูมิภาค และบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการหยุดชะงักในการจัดหาน้ำมันที่อาจเกิดขึ้น

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ลดลง 1.22 ดอลลาร์หรือ 1.45% ปิดที่ 82.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า Brent ลดลง 1.10 ดอลลาร์หรือ 1.23% อยู่ที่ 88.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

คณะผู้แทนเจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส นำโดยรองผู้นำคาลิล อัล-เฮย์ยา เดินทางมาถึงอียิปต์เพื่อเข้าร่วมในการเจรจาหยุดยิงซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐอเมริกาเป็นสื่อกลาง ซาเมห์ ชูครี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์แสดงทัศนคติในแง่ดีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิสราเอลและฮามาสจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงฉบับใหม่

เพื่อเป็นการตอบสนอง รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล อิสราเอล แคทซ์ ได้ประกาศระงับปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อราฟาห์ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงเครียดในภูมิภาคที่บรรเทาลงได้ ทั้งนี้ ในระหว่างรอผลการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ในกรุงไคโร

นอกเหนือจากการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ราคาน้ำมันยังเผชิญกับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงกว่าคาดในสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น

นักลงทุนต่างตั้งตารอผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายนถึง 1 พฤษภาคมอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมด้วยการแถลงข่าวครั้งต่อไปโดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เพื่อบ่งชี้ถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ความคาดหวังของตลาดมีการเปลี่ยนแปลง โดยการคาดการณ์แนะนำให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยอีก 0.35% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่จะลดลง 1.50%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่าจะเปิดเผยรายงานสต๊อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ในวันพุธ ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลวัตของอุปทานของตลาดน้ำมัน

Leave a Reply

Discover more from

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading