สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ตามรายงานของสื่อที่ระบุว่าสหรัฐฯ และอิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ หากบรรลุข้อตกลงดังกล่าว จะส่งผลให้การคว่ำบาตรอิหร่านผ่อนคลายลงและอนุญาตให้มีการส่งออกน้ำมันจากประเทศเพิ่มขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 75.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ และอิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงชั่วคราว ภายใต้ข้อตกลงที่เสนอ อิหร่านจะระงับโครงการพัฒนายูเรเนียมและร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ในการทบทวนโครงการนิวเคลียร์ ในการแลกเปลี่ยน อิหร่านจะได้รับอนุญาตให้ส่งออกน้ำมันได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเข้าถึงเงินทุนที่เกิดจากการขายน้ำมัน ซึ่งจะใช้สำหรับการซื้อสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหารและยา ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงสินทรัพย์ที่ถูกอายัดไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้ผันผวนในเชิงลบภายหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ปฏิเสธความถูกต้องของรายงานดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดน้ำมันในระหว่างวันอีกด้วย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าของดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ร่วงลง 0.71% ในชั่วข้ามคืน เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมักส่งผลดีต่อสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่นสามารถซื้อได้ง่ายกว่า
ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิดซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13-14 มิ.ย. นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% ในระหว่างการประชุมครั้งนี้
ตลาดน้ำมันยังคงอ่อนไหวต่อพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน เนื่องจากตลาดเหล่านี้มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานน้ำมันทั่วโลก ความคืบหน้าหรือความล้มเหลวในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า