สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปีในวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง เป็นผลให้นักลงทุนหันไปหาโลหะมีค่าซึ่งถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 13.20 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,997.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2565 ในขณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเงินเพิ่มขึ้น 2.23% ปิดที่ 23.989 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำขาวเพิ่มขึ้น 2% เป็น 996.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ออนซ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.8% เป็น 1,463.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การลดลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งวัดโดยดัชนีดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ส่งผลให้สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.48% ที่ 102.1516 นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 3.562% ในชั่วข้ามคืน ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการถือครองทองคำเนื่องจากไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย

นักลงทุนติดตามการประกาศดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.อย่างใกล้ชิด PCE สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคและครอบคลุมราคาสินค้าและบริการที่หลากหลายกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

รายงาน PCE อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาณของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจส่งผลเสียต่อราคาทองคำ ดังนั้น นักลงทุนจึงให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการค้นพบของรายงานเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อขายของพวกเขา

โดยสรุป ราคาทองคำได้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐที่ลดลง ทำให้โลหะมีค่ามีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นักลงทุนกำลังจับตาดูรายงาน PCE ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งจะเป็นแนวทางการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดและอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ

Leave a Reply

Discover more from

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading