สัญญาน้ำมันดิบปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ (9 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ตกต่ำช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
- ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์หรือ 3.9% สู่ 86.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังคงลดลง 0.1% ในสัปดาห์นี้
- ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของ BRENT เพิ่มขึ้น 3.69 ดอลลาร์หรือ 4.1% สู่ 92.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังคงลดลง 0.2% ในสัปดาห์ก่อน
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันทั่วโลก อุปทานน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียอาจหายไปสำหรับประเทศตะวันตกหลังจากที่รัสเซียขู่ว่าจะยกเลิกสัญญาหากประเทศ G7 บังคับใช้การจำกัดราคาน้ำมันของรัสเซีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะตัดการจ่ายพลังงานไปยังประเทศตะวันตกโดยสิ้นเชิง หากมีการใช้มาตรการเพื่อกำหนดราคาน้ำมันของรัสเซีย
“เราจะยุติสัญญาของเรากับตะวันตก และเราจะยุติการจัดหาพลังงานทั้งหมด หากมีการใช้มาตรการขัดต่อผลประโยชน์ของเรา เราจะไม่ส่งก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน หรือพลังงานใดๆ” ปูตินกล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจตะวันออกในเมืองวลาดีวอสตอค รัสเซีย
เมื่อวันที่ 2 กันยายน รัฐมนตรีคลัง G7 ตกลงเกี่ยวกับมาตรการจำกัดราคาน้ำมันของรัสเซีย โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ฐานะการเงินของรัสเซียอ่อนแอลง เพื่อไม่ให้ใช้เงินที่ได้ไปสนับสนุนการทำสงครามกับยูเครน มาตรการกำหนดราคาน้ำมันดิบรัสเซียจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2565 และจะมีผลบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์หลังจากที่ค่าเงินที่เพิ่มขึ้นล่าสุดยังสนับสนุนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เทียบกับหกสกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงินลดลง 0.64% มาอยู่ที่ 109.0030
ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลงและน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบก็พุ่งขึ้นเช่นกัน แม้ว่า EIA จะรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.ย.) ว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันยังคงส่งผลกระทบต่อราคา