ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน ราคาทองคำล่วงหน้ามีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าดีดขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 30 เซนต์ หรือเท่ากับเพียง 0.02% โดยปิดตลาดที่ 1,932.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะเดียวกัน เงินก็พยายามดิ้นรน โดยร่วงลง 18.70 เซนต์หรือ 0.81% ปิดที่ 22.994 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของแพลตตินัมดีขึ้นเล็กน้อย โดยขยับขึ้น 5.90 ดอลลาร์หรือ 0.65% ปิดที่ 911.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แพลเลเดียมร่วง 6 ดอลลาร์หรือ 0.5% อยู่ที่ 1,254.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ฟื้นตัวขึ้น 0.58% แตะ 105.3816 ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 4.280% ในช่วงข้ามคืน
การขึ้นค่าเงินดอลลาร์อย่างน่าเกรงขามทำให้เกิดแรงกดดันต่อสัญญาทองคำที่มีราคาในสกุลเงินเดียวกัน ทำให้นักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นเข้าถึงสัญญาเหล่านี้ได้น้อยลง ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นก็ทำให้ต้นทุนการรักษาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากโลหะมีค่าไม่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย
ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 กันยายนอย่างใกล้ชิด ตามข้อมูลล่าสุดจากเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME นักลงทุนกำหนดโอกาสที่สำคัญ 97.0% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 5.25-5.50% ในทางตรงกันข้าม ความน่าจะเป็นเพียง 3.0% เท่านั้นที่เกิดจากการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นช่วง 5.50-5.75% ในระหว่างการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้น
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ตลาดโลหะมีค่ายังคงมีความสมดุลอย่างดี โดยทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แม้จะเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัวได้และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนยังคงติดตามการตัดสินใจของ Fed อย่างใกล้ชิด เนื่องจากพวกเขาถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ทิศทางในอนาคตของทั้งเงินดอลลาร์และโลหะมีค่า