สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการประชุมที่จะมีขึ้น นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.68% เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,995.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทำนองเดียวกัน ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 1.70% หรือ 40 เซนต์ แตะที่ 23.987 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำขาวล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.11% หรือ 11.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,010.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพัลลาเดียมเพิ่มขึ้น 2.3% หรือ 31.70 ดอลลาร์ สิ้นสุดวันที่ 1,390.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าเงินเทียบกับตะกร้าคู่สกุลเงินหลัก 6 สกุล อ่อนค่าลง 0.74% สู่ระดับ 103.5585 ในชั่วข้ามคืน ดังนั้น เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมีส่วนทำให้ต้นทุนของสัญญาทองคำราคาดอลลาร์ถูกลง ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อได้
ปัจจัยบวกอีกประการหนึ่งสำหรับตลาดทองคำเกิดจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันในระหว่างการประชุมที่กำหนดไว้ในวันที่ 13-14 มิถุนายน เจ้าหน้าที่เฟดหลายคน รวมถึงนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานเฟดคนใหม่ แสดงการสนับสนุนการปรับอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในระหว่างการประชุมเดือนมิถุนายน เจฟเฟอร์สันเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกก่อนที่จะกำหนดขอบเขตของนโยบายเข้มงวดทางการเงิน
นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานมีบทบาทในการสร้างความคาดหวังเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟด จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐ ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย (ULC) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญสำหรับเฟด เพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาสแรก ซึ่งชะลอตัวลงจากประมาณการเบื้องต้นที่ขยายตัว 6.3%
นักลงทุนติดตามการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม โดยเป็นการชะลอตัวลงจากการจ้างงาน 253,000 ตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในเดือนเมษายน