ในวันอังคารที่ 21 มีนาคม โกลด์ฟิวเจอร์สปิดต่ำกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนในวันจันทร์ การร่วงลงครั้งนี้มีขึ้นเนื่องจากนักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันพุธที่ 22 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐ
จากข้อมูล สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าลดลง 41.70 ดอลลาร์ หรือ 2.10% ปิดที่ 1,941.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงินลดลง 22.10 เซนต์ หรือ 0.98% ที่ 22.425 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำขาวร่วงลง 20.10 ดอลลาร์ หรือ 2.02% ปิดที่ 976.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพัลลาเดียมลดลง 17.50 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,383.10 ดอลลาร์/ออนซ์
การลดลงของราคาทองคำฟิวเจอร์สมีขึ้นหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งสองวันติดต่อกัน โดยแตะที่ 1,982.80 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2022
นอกจากนี้ ความกังวลของตลาดเกี่ยวกับวิกฤตในภาคการธนาคารส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ มีเสถียรภาพหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการเพื่อบรรเทาวิกฤตสภาพคล่อง และรัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินการเพิ่มเติมหากวิกฤตลุกลามบานปลาย เยลเลนยังกล่าวด้วยว่าธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ อัดฉีดเงินฝากจำนวน 30,000 ล้านดอลลาร์เข้าธนาคาร First Republic Bank (FRB) เป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นในระบบธนาคารของสหรัฐฯ
นักลงทุนรอผลการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 22 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐ เฟดคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการจัดการวิกฤตในระบบธนาคารพาณิชย์ เฟดจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การป้องกันเงินเฟ้อ