เมื่อวันศุกร์ โกลด์ฟิวเจอร์สปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน และกำไรสูงสุดประจำสัปดาห์ในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการธนาคารทั่วโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังส่งผลดีต่อตลาดทองคำอีกด้วย

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 50.50 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 1,973.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.7% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงินเพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 3.55% ปิดที่ 22.462 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำขาวล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 978.60 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพัลลาเดียมขยับลง 23.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ที่ 1,386.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ลดลง 0.67% มาอยู่ที่ 103.7153 ทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

วิกฤตการณ์ธนาคารโลกยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน กระตุ้นให้พวกเขาซื้อทองคำเพื่อเป็นที่หลบภัยในการลงทุน นอกจากนี้ การคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเพิ่มขึ้น 0.25% อีกครั้งในสัปดาห์หน้า ยังกดดันดัชนีดอลลาร์และผลักดันสัญญาทองคำให้สูงขึ้น

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐในวันศุกร์ได้หนุนราคาทองคำล่วงหน้าให้สูงขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐยังคงทรงตัวในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.2% การสำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนยังระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยลดลงเหลือ 63.4 ในเดือนมีนาคมจาก 67.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 67.0

โดยสรุป ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารโลก การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และการคาดการณ์ของตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของทองคำล่วงหน้า .

Leave a Reply