ความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนถูกกำหนดให้ทำลายเศรษฐกิจโลกถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 จากการศึกษาของสถาบันเศรษฐกิจแห่งเยอรมนี (IW) การศึกษาเน้นย้ำถึงผลกระทบของความขัดแย้งในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยบริษัทต่างๆ ทั่วโลกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัญหาการจัดหาพลังงานและวัตถุดิบ

Michael Gromling ผู้เชี่ยวชาญของ IW Institute แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบอย่างลึกซึ้งที่ความขัดแย้งดังกล่าวมีต่อเศรษฐกิจโลก ตะวันตกได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากการสูญเสีย 2 ใน 3 ของการผลิตทั่วโลก ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงต้นทุนการผลิตที่ไม่คาดคิดและความยากลำบากสำหรับหลายบริษัท ส่งผลให้ราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นฉุดกำลังซื้อของภาคครัวเรือนจนการบริโภคหดตัว ราคาพลังงานที่สูงยังทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่เต็มใจที่จะลงทุนเนื่องจากความผันผวนของโลกและราคาที่สูงขึ้น

เยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคมทรงตัวที่ 8.7% แต่ได้ผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงกว่าเกณฑ์ 10% ชั่วคราวในปี 2565 ก่อนที่มาตรการลดผลกระทบจะดึงราคาลงมาอีกครั้ง

IW Institute คาดการณ์การสูญเสียมูลค่าเพิ่มทั่วโลกเพิ่มเติมในปี 2566 ที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่มีสัญญาณว่าจะดีขึ้นในปีนี้ จากการศึกษาพบว่าการขาดแคลนวัตถุดิบและความผันผวนจะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกหลายปี

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทั่วโลกสำหรับปี 2566 ในเดือนมกราคมเล็กน้อยจาก 2.7% เป็น 2.9% อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงเป็นความกังวลหลักสำหรับเศรษฐกิจโลก โดยสถาบัน IW Institute เตือนถึงผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

Leave a Reply