สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังการเปิดประเทศของจีน ตลาดยังตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาด ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าพุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 87.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของ GDP สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2022 โดยเปิดเผยว่า GDP เติบโต 2.9% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ตามการขยายตัว 3.2% ในไตรมาสที่สามซึ่งได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค
การประกาศตัวเลข GDP ที่ดีเกินคาดช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ซึ่งหดตัว 1.6% ในไตรมาสแรกของปี 2565 และ 0.6% ในไตรมาสที่สอง
ตลาดยังตอบรับเชิงบวกต่อข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 616,000 หน่วยในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนธันวาคม เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่จะเพิ่มขึ้น 2.5% .
ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 500,000 บาร์เรลเป็น 448.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 1 ล้านบาร์เรล
นักวิเคราะห์ของยูบีเอสระบุว่า จีนได้ประกาศเปิดด่านขาเข้าและขาออกอีกครั้งในเดือนนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดพรมแดนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันที่ฟื้นตัว
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในวันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากตลาดคาดว่า JMMC จะตัดสินใจคงนโยบายการลดกำลังการผลิตในปัจจุบัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2566