ที่งาน World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซีอีโอของ Intel ระบุว่าที่ตั้งของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีและแหล่งผลิตเซมิคอนดักเตอร์จะมีความสำคัญต่อการเมืองโลกในทศวรรษหน้ามากกว่าน้ำมัน
การลงทุนล่าสุดของ Intel ในโรงงานผลิตแห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่นๆ ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่ออนาคตของบริษัทเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อโลกาภิวัตน์ของหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลกอีกด้วย เมื่อปีที่แล้ว Intel ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานชิปใหม่ 2 แห่งในสหรัฐอเมริกา และอีก 90,000 ล้านดอลลาร์ในโรงงานใหม่ในยุโรป ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาการผลิตชิปในเอเชีย โดยเฉพาะจีนและไต้หวัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความตึงเครียดทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้น ปัญหาห่วงโซ่อุปทานชิปส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและความล่าช้าในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ไปจนถึงไอโฟนและรถยนต์