สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบปิดสูงขึ้นในวันอังคาร (17 ม.ค.) ตามการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่เป็นบวกจากจีน การเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนคาดว่าจะเพิ่มความต้องการน้ำมันและกระตุ้นเศรษฐกิจ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 80.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ BRENT พุ่งขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 85.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ประกาศเมื่อวันอังคาร (17 ม.ค.) ว่า GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น 3% ในปี 2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 2.8% ต่อปี ข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกนี้ ประกอบกับตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด ทำให้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566
นักวิเคราะห์ของโจนส์ แลง ลาซาล ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในจีนมีแนวโน้มที่จะผลักดันความต้องการใช้น้ำมันและกระตุ้นเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยยังคงเป็นปัจจัยในตลาด ดัชนีการผลิตของ Empire State Manufacturing Index ของ Federal Reserve Bank of New York ลดลงสู่ -32.9 ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการหดตัวของการผลิตในนิวยอร์กเนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซา ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานในภาคการผลิตในนิวยอร์กชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ผลสำรวจ CEO ทั่วโลกที่จัดทำโดย PricewaterhouseCoopers (PwC) พบว่า CEO ส่วนใหญ่ (73%) คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในปี 2566 ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเศรษฐกิจโลกนับตั้งแต่ PwC เริ่มทำการสำรวจในปี 2554
แม้จะมีความกังวลเหล่านี้ แต่คาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากจีนจะส่งผลดีต่อราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากจะช่วยผลักดันอุปสงค์น้ำมันให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เช่นเคย นักลงทุนควรติดตามพัฒนาการของตลาดและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาด