เศรษฐกิจของไต้หวันมีแนวโน้มเติบโตช้าลงมาก
เศรษฐกิจของไต้หวันคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ช้าลงมากในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงฉุดความต้องการเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศคาดว่าจะเติบโตเพียง 1.3% ในเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากที่ขยายตัว 4.01% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สาม
ผู้กำหนดนโยบายคาดว่าการเติบโตทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณหรือน้อยกว่า 3% ซึ่งช้ากว่าอัตราการเติบโต 6.45% ในปี 2564 ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าทศวรรษนับตั้งแต่ขยายตัว 10.25% ในปี 2553 Capital Management กล่าวว่า GDP ของประเทศพุ่งสูงสุดในไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยไตรมาสที่ 4 ได้รับผลกระทบทางลบจากอุปสงค์อิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง ความต้องการสินค้าของไต้หวันได้รับผลกระทบจากมาตรการกักกันของจีนและการระบาดของโควิด-19 เงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น และนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
นอกจากนี้ การส่งออกของไต้หวันลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม โดยมีมูลค่าลดลง 12.1% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 3.575 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน ไต้หวันเป็นศูนย์กลางสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลกสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลก รัฐบาลจะยังคงติดตามสถานการณ์และปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจตามความจำเป็นเพื่อสนับสนุนการเติบโตและการฟื้นตัว