สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า BRENT พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.5% ในเดือนธันวาคมจากปีก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นช้าลงจาก 7.1% ในเดือนพฤศจิกายนและเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เมื่อเทียบรายเดือน CPI ลดลง 0.1% ในเดือนธันวาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นี่เป็นการลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19

การชะลอตัวของดัชนี CPI บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะเป็นตัวเร่งให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-ก.พ. ประชุม 1 ครั้งเกิน 90% จากเดิมให้น้ำหนัก 76.7%

ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าการเปิดตัวของจีนจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมัน ทีมนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงถึง 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากการเปิดตัวของจีนจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะใช้กับการขนส่งทางอากาศ รถไฟ และรถยนต์

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบในสกุลเงินอื่นมีราคาถูกลงอีกด้วย ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.87% เมื่อเทียบกับหกสกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงินเมื่อคืนนี้ แตะระดับ 102.2910

Leave a Reply

Discover more from

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading