สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบปิดสูงขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ (11 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะลดลงเนื่องจากผลกระทบของการคว่ำบาตร แนวโน้มนี้ช่วยบดบังปัจจัยลบที่เกิดจากรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน BRENT พุ่งขึ้น 2.57 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 82.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ของ OANDA กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าการเปิดตลาดของจีนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกและกระตุ้นอุปสงค์น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
นักลงทุนจับตาดูการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธันวาคมของสหรัฐในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า CPI โดยรวมซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธันวาคม นี้จะลดลงจาก 7.1% ในเดือนพฤศจิกายน
หากดัชนีราคาผู้บริโภคต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ทำให้ราคาของสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบที่ชำระด้วยสกุลเงินดอลลาร์ถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ในทางตรงกันข้าม นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในเมือง Cushing รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล