สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดสูงขึ้นในวันอังคาร (10 ม.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั่วโลกน่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI สำหรับการส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.6% สู่ระดับ 75.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ BRENT พุ่งขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 80.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ได้เผยแพร่รายงาน Short-Term Energy Outlook ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 102.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย รายงานดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นักลงทุนจับตาดูการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนสนับสนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 5% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงประธานเฟดสาขาแอตแลนตาซึ่งกล่าวว่าเฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในช่วง 5.0-5.25% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ประธานเฟดซานฟรานซิสโกยังกล่าวด้วยว่าเฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 5.0% เพื่อเข้าสู่ช่วงสูงสุดที่ 5.0-5.25% และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับนั้นสักระยะหนึ่งเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด
ประธานเฟดไม่ได้ระบุถึงทิศทางของเฟดในสุนทรพจน์ของเขาในการอภิปรายของธนาคารกลางสวีเดนในกรุงสตอกโฮล์มเมื่อวานนี้ เขากล่าวเพียงว่าธนาคารกลางต้องเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง และในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางกำลังพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนกำลังรอการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธันวาคมในวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการเปิดเผยตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้