สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดสูงขึ้นมากกว่า 2% ในวันพุธ (21 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการลดลงอย่างรวดเร็วของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน BRENT พุ่งขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 2.76% ปิดที่ 82.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ประกาศว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดลง 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 1.7 ล้านบาร์เรล สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่ารัฐบาลจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ต่อไป และเปิดประเทศอีกครั้งในเร็วๆ นี้ หลังจากไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติม S&P Global คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะสูงถึง 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อจีนกลับมาเปิดทำการเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการของตลาดได้อย่างมาก ความต้องการน้ำมันของจีนคาดว่าจะสูงถึง 15.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 เพิ่มขึ้นประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวันจากระดับปี 2565
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่ากลุ่ม OPEC และ OPEC+ ได้ตัดสินใจลดการผลิต เขากล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดและอุตสาหกรรมน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก OPEC+ จัดประชุมนโยบายการผลิตเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และตกลงที่จะลดการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2566 สร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ และตะวันตก ซึ่งเรียกร้องให้เพิ่มการผลิต