สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (13 ธ.ค.) หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รายงานด้วยว่าท่อส่ง Keystone ยังคงปิดอยู่เนื่องจากการรั่วไหล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 75.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน BRENT พุ่งขึ้น 2.69 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 80.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนพฤศจิกายนจากปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 7.3%
ดัชนี CPI หลัก (ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 6.0% ในเดือนพฤศจิกายนจากปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 6.1%
นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดอาจทำให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และอาจไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. นั่นจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของเฟดอยู่ที่ 4.625% อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำอย่างไม่คาดคิดในสหรัฐฯ ทำให้เงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนในสกุลเงินอื่นๆ
ดัชนีดอลลาร์ลดลง 1.09% ในชั่วข้ามคืนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลที่ 103.9840
ฟิวเจอร์สน้ำมันยังได้รับแรงหนุนหลังจาก TC Energy ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของแคนาดาประกาศว่าบริษัทยังคงซ่อมแซมรอยรั่วบนท่อส่งน้ำมัน Keystone และยังไม่สามารถบอกได้ว่าท่อส่งน้ำมันจะกลับมาให้บริการได้เมื่อใด คีย์สโตนเป็นท่อส่งน้ำมันจากอัลเบอร์ตา แคนาดา ไปยังคาบสมุทรกัลฟ์และมิดเวสต์ของสหรัฐฯ การรั่วไหลในท่อส่งน้ำมันของ Keystone คาดว่าจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ในการซ่อม และคาดว่าปัญหาดังกล่าวจะกดดันอุปทานน้ำมันดิบที่ Cushing รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ
นักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ในวันนี้