สัญญาซื้อขายทองคำร่วงลงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น บวกกับความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาด

  • สัญญาทองคำล่วงหน้าลดลง 28.3 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 1,781.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • ราคาซิลเวอร์ฟิวเจอร์สลดลง 83.3 เซนต์ หรือ 3.58% ที่ 22.417 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแพลทินัมลดลง 19.1 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ 1,007.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพัลลาเดียมลดลง 39.80 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,861.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดัชนีดอลลาร์สูงขึ้น 0.71% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลที่ 105.2920 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 3.595% ในชั่วข้ามคืน

ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำที่มีราคาเป็นดอลลาร์แพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขภาคบริการและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาดีเกินคาดในเดือนพ.ย.

สถาบันการจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า PMI นอกภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเป็น 56.5 จาก 54.4 ในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 53.1 โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐรายงานว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 263,000 ในเดือนพฤศจิกายน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงสำหรับคนงานเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลขรายรับรายชั่วโมงเป็นข้อมูลที่เฟดมุ่งเน้นเพื่อบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

จากรายงานล่าสุด นักลงทุน 89% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงสุดที่ 4.984% ในเดือนพฤษภาคม 2566

Leave a Reply