สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หดตัว 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สามของปี 2565 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบปี เนื่องจากการชะลอตัวของการบริโภคและปริมาณการนำเข้าที่สูงขึ้น มากกว่าการส่งออก
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน GDP ลดลง 0.3% ในไตรมาสที่สาม
การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3% เหนือความคาดหมายของตลาดที่ 0.2% แต่ชะลอตัวลงอย่างมากจากการเติบโต 1.2% ในไตรมาสที่สอง
เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของเงินเยนอย่างต่อเนื่อง ดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก (CPI) ไม่รวมราคาอาหารสด เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือนกันยายน
การลดค่าเงินเยนทำให้ต้นทุนการนำเข้าของญี่ปุ่นสูงขึ้น โดยเฉพาะเชื้อเพลิงและวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผู้ผลิตต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและต้องส่งต่อต้นทุนให้กับผู้บริโภค
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทต่างๆ ลดการใช้จ่ายลง ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ในไตรมาสที่สาม ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.1% และชะลอตัวลงอย่างมากจากการเติบโต 2.4% ในไตรมาสที่สอง