สัญญาทองคำปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ (11 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ นี่อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 15.70 ดอลลาร์หรือ 0.9% ปิดที่ 1,769.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2022 และทองคำล่วงหน้าในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 5.5%
- โลหะเงิน ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 21.667 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแพลตตินั่มลดลง 16.9 ดอลลาร์หรือ 1.6% ปิดที่ 1,038.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพัลลาเดียมพุ่งขึ้น 72.30 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 2,026.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำได้รับการสนับสนุนหลังจากเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองเดือน ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 1.76% สู่ระดับ 106.2950 เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลในวันศุกร์
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำที่มีราคาเป็นดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธันวาคมหลังจากเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมั่นใจ 81% ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม และมีเพียง 19% ที่มั่นใจว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
นอกจากนี้ โกลด์ฟิวเจอร์สได้รับแรงผลักดันในฐานะแหล่งหลบภัยหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ อยู่ที่ 54.7 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 59.9 ในเดือนตุลาคม