สัญญาทองคำเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ต่ำกว่าที่คาดไว้ นี่อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคาของเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำ
- สัญญาทองคำเพิ่มขึ้น 40 ดอลลาร์หรือ 2.33% ปิดที่ 1,753.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2022
- สัญญาเงินเพิ่มขึ้น 37.5 เซนต์ หรือ 1.76% ที่ $21.702 ต่อออนซ์
- สัญญาแพลทินัมเพิ่มขึ้น 57.7 ดอลลาร์หรือ 5.79% ที่ 1,055 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมเพิ่มขึ้น 95 ดอลลาร์หรือ 5.1% ที่ 1,954.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า CPI ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ลดลงจาก 8.2% ในเดือนกันยายน
CPI หลัก (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ลดลงจาก 6.6% ในเดือนกันยายน
ข้อมูลนี้สะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะสูงสุดแล้ว และนักลงทุนคาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนธันวาคม เครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME แสดงให้เห็นว่านักลงทุน 80.6% คาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม และ 19.4% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% %
ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงิน 2.12% มาอยู่ที่ 108.2040
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำที่มีราคาเป็นดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่เชี่ยวชาญในสกุลเงินอื่น