สัญญาทองคำสปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐที่เพิ่มขึ้น เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าคาด
- สัญญาทองคำปิดลง 19.1 ดอลลาร์หรือ 1.16% ที่ 1,630.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- เงินลดลง 16.4 เซนต์หรือ 0.84% ที่ 19.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลตตินั่มลดลง $26.8 หรือ 2.82% ที่ 924.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ราคาแพลเลเดียมฟิวเจอร์สร่วงลง 52 ดอลลาร์หรือ 2.8% ที่ 1,798.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงินเพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 112.9260 ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.174%
ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้สัญญาทองคำที่มีราคาเป็นดอลลาร์แพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนในการเป็นเจ้าของทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย
ตลาดทองคำยังอยู่ภายใต้แรงกดดันเมื่อเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็น 3.75-4.0% ในการประชุมเมื่อวันพุธ นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ในปีนี้
ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่เฟดจะพิจารณาระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ข้อสังเกตดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่ารอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจยาวนานกว่าที่คาดไว้
ตลาดได้เพิ่มความคาดหวังสำหรับเพดานอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็น 5% หรือมากกว่าในปีหน้าจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 4.50-4.75%
วันนี้นักลงทุนกำลังรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนตุลาคม ในเดือนตุลาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มงาน 263,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน