สัญญาน้ำมันดิบปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย. ) เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับจีนที่ยึดติดกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป นักวิเคราะห์กล่าวว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภัยคุกคามจากภาวะถดถอยและความต้องการใช้น้ำมันก็จะลดลงเช่นกัน

  • ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ลดลง 1.83 ดอลลาร์หรือ 2% ที่ 88.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์หรือ 1.5% ปิดที่ 94.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในการประชุมเมื่อวันพุธ คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็น 3.75-4.00% นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ในปีนี้

นอกจากนี้ ประธานเฟดกล่าวว่างานของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่สิ้นสุด และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่เฟดจะพิจารณาระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ข้อสังเกตดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจะนำไปสู่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่เสนอราคาเป็นดอลลาร์แพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 112.9260 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าสกุลเงิน

ตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ยืนยันว่าจีนจะยึดมั่นนโยบาย COVID เป็นศูนย์แม้จะปิดตัวลง และมาตรการที่เข้มงวดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การยืนยันนี้ลดความหวังของนักลงทุนที่คาดว่าจีนจะเปิดขึ้น

จากข้อมูลของ NHC ประเทศจีนรายงานผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่ 3,200 รายในวันพุธ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง

Leave a Reply