การสำรวจธุรกิจวันนี้ (1 พ.ย.) แสดงให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเอเชียลดลงในเดือนตุลาคมเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกและการบังคับใช้นโยบายโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มว่าจะกดดันธนาคารกลางส่วนใหญ่ในเอเชียให้กระชับนโยบายการเงินของประเทศเพื่อสกัดกั้นเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรง แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงแล้วก็ตาม
การผลิตในเกาหลีใต้ ไต้หวัน และมาเลเซียหดตัวในเดือนตุลาคม ขณะที่การผลิตในญี่ปุ่นขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 21 เดือน ตอกย้ำผลกระทบของอุปสงค์ที่ชะลอตัวจากจีน และต้นทุนการนำเข้าที่สูงทั่วทั้งกระดาน
Caixin/S&P China Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI) Global อยู่ที่ 49.2 ในเดือนตุลาคม แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 48.1 ในเดือนกันยายน แต่ดัชนียังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตของจีนลดลง
PMI ภาคการผลิตของภาคเอกชนของจีนสอดคล้องกับ PMI อย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของจีนลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนตุลาคม
อนึ่ง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชีย เหตุผลก็คือความเข้มงวดของนโยบายการเงินโลกและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากสงครามในยูเครน และการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนได้บ่อนทำลายแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย