สัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในวันศุกร์ (23 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะยังคงขึ้นต่อไป อัตราดอกเบี้ย.
- สัญญาทองคำร่วง 25.5 ดอลลาร์ หรือ 1.52% สู่ 1,655.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2020 และลดลง 1.7% ในสัปดาห์นี้
- สัญญาเงินร่วงลง 70.7 เซนต์หรือ 3.6% ที่ 18.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลทินัมปิดลง 47.3 ดอลลาร์หรือ 5.22% ปิดที่ 858.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมปิดลง 104.50 ดอลลาร์หรือ 4.8% ปิดที่ 2,070.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และการฟื้นตัวของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งตอบสนองต่อนโยบายการเงินของเฟด พุ่งขึ้นเหนือ 4.2% ในวันศุกร์ ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 และ 30 ปี
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นพุ่งสูงกว่าผลตอบแทนระยะยาว เป็นผลให้ตลาดตราสารหนี้สหรัฐมีเส้นอัตราผลตอบแทนกลับหัวซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะถดถอย
ในการประชุมครั้งล่าสุด เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% เป็น 3.00-3.25% นอกจากนี้ยังส่งสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะถึง 4.6% ในปี 2566