ในการประชุมเมื่อวานนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ได้ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% เป็น 3.00-3.25% ตามการคาดการณ์ของตลาด
เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน 0.75% นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ยากที่สุดของเฟด เนื่องจากทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือนโยบายการเงินที่สำคัญในปี 1990 ตอนนี้อยู่ที่ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008
เฟดยังส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 4.6% ภายในปี 2566
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยหลัก (dot plot) เจ้าหน้าที่ของเฟดไม่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใดๆ จนถึงปี 2024 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลงเหลือ 2.9%
อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะสูงถึง 4.4% ณ สิ้นปีนี้และ 4.6% ณ สิ้นปี 2566 ก่อนที่จะลดลงเหลือ 3.9% ในปี 2567 และทรงตัวที่ 3.9% ในปี 2568
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะสูงถึง 4.5% ภายในสิ้นปีนี้ ลดลงเหลือ 3.1%, 2.3% และ 2.1% ในปี 2566, 2567 และ 2568 ตามลำดับ
อัตราการว่างงานคาดว่าจะสูงถึง 3.8% ภายในสิ้นปีและเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในปี 2566 และ 2567 ก่อนที่จะลดลงเหลือ 4.3% ในปี 2568 ในขณะที่อัตราการว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0%
ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตเพียง 0.2% ภายในสิ้นปี และเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ภายในปี 2566