สัญญาน้ำมันดิบปิดตัวลงมากกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ท่ามกลางความกลัวว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางทั่วโลกจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจและความต้องการน้ำมัน

  • ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ลดลง 3.38 ดอลลาร์หรือ 3.8% ปิดที่ 85.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน
  • ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์ร่วงลง 3.26 ดอลลาร์หรือ 3.5% ปิดที่ 90.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงินเป็น 109.7400 ทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงกว่าสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

นักลงทุนกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของเฟดและธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผลักดันเศรษฐกิจโลกให้เข้าสู่ภาวะถดถอยและส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

ข้อมูลล่าสุดจากเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME แสดงให้เห็นว่าขณะนี้นักลงทุน 80% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็น 3.00-3.25% ในการประชุม 20-21 กันยายน และ 20% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% .

ตลาดน้ำมันยังอยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกเตือนในรายงานว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอยเนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนว่าการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะชะลอตัวลงในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

Leave a Reply