สัญญาน้ำมันดิบปิดสูงขึ้นในวันอังคาร (19 ก.ค.) เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และความคาดหวังว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะตึงตัวขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์หรือ 1.6% ตันที่ 104.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์หรือ 1% ที่ 107.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดสูงขึ้นเป็นวันที่สามเนื่องจากเงินดอลลาร์ยังคงหนุนตลาดอย่างต่อเนื่อง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เทียบกับหกสกุลเงินหลักในตะกร้าสกุลเงินลดลง 0.64% มาที่ 106.6820
นักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะตึงตัว มีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังเตรียมประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาโลกร้อน มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตน้ำมันในสหรัฐอเมริกา
ไบเดนยังล้มเหลวในการโน้มน้าวให้สมาชิกโอเปกเพิ่มการผลิตเพื่อสกัดกั้นราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากการไปเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
บริษัทก๊าซ PJSC ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ในรัสเซีย ได้ประกาศเหตุสุดวิสัยในการจัดหาน้ำมันให้แก่ลูกค้าก๊าซธรรมชาติหลายรายในยุโรป การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่ารัสเซียตั้งใจที่จะควบคุมการจ่ายก๊าซไปยังยุโรปและจะทำให้แหล่งพลังงานแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เหตุสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่ทำหน้าที่ปลดปล่อยทั้งสองฝ่ายจากภาระผูกพันทางกฎหมายเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ข้อพิพาทแรงงาน การก่อการร้าย และภัยธรรมชาติ
สำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ (EIA) จะรายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบในวันนี้ นักวิเคราะห์ที่สำรวจโดย S&P Global Commodity Insights คาดการณ์ว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบจะลดลง 200,000 บาร์เรลและสินค้าคงคลังโรงกลั่นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 800,000 บาร์เรล