สำนักงานสถิติชาวอินโดนีเซียประกาศในวันนี้ว่าการส่งออกในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 25.31% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 33.86%
การส่งออกในเดือนมกราคมชะลอตัวลงอย่างมาก มูลค่าการส่งออกรวม 1.916 พันล้านดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 36.77% เป็น 18.23 พันล้านดอลลาร์
อินโดนีเซียบันทึกการเกินดุลการค้าประมาณ 930 ล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวช้ากว่าที่คาดไว้
การส่งออกของอินโดนีเซียชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดในเดือนม.ค. หลังจากที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก สั่งห้ามการส่งออกถ่านหิน สิ่งนี้ทำให้ผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่ของชาวอินโดนีเซีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ กดดันทางการชาวอินโดนีเซียให้ดำเนินการส่งออกต่อไป การห้ามส่งออกถ่านหินยังส่งผลให้ราคาถ่านหินสูงขึ้นอีกในปีนี้
อินโดนีเซียระงับการส่งออกถ่านหินทั้งหมดในวันที่ 1 มกราคม เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทเหมืองถ่านหินในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณถ่านหินในประเทศลดลงเหลือน้อยที่สุด เสี่ยงไฟฟ้าดับทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การส่งออกถ่านหินค่อยๆ กลับมาเริ่มดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 10 มกราคม ขณะที่การส่งออกจากเหมืองที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดภายในประเทศยังคงถูกห้าม
อินโดนีเซียบันทึกดุลการค้ารายเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 โดยได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยหลายประเทศได้ยกมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19
บทความที่เกี่ยวข้อง
GDP ของอินโดนีเซียเติบโต 5.02% ในไตรมาสที่ 4
เอเชียถอนหายใจโล่งอกหลังจากเรือถ่านหินลำแรกได้รับอนุญาตให้ออกจากอินโดนีเซีย