สัญญาทองคำยังคงขยับสูงขึ้นในตอนเที่ยงวันอังคารในเอเชีย (7 ก.พ. ) เนื่องจากตลาดต่างรอคอยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (เวลาเอเชีย GMT+7) นอกจากนี้ มีการกล่าวกันว่าวาฬตัวใหญ่กำลังซื้อทองคำที่ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ครั้งใหญ่ในขณะนี้
- สัญญาทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์หรือ 0.8% ที่ 1,821.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาเงินล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 60 เซนต์หรือ 2.7% ที่ 23.076 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาแพลตตินั่มล่วงหน้าลดลง 4.2 ดอลลาร์หรือ 0.4% ที่ 1,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมล่วงหน้าปิดลง 30.60 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,260.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนเน้นไปที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมกราคมในวันพฤหัสบดีนี้ การคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ข้อมูลตลาดแรงงานที่ดีโดยไม่คาดคิดก็ถูกเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
นักลงทุนจึงจับตาดูการคาดการณ์ที่ออกโดยสถาบันการเงินหลายแห่งอย่างใกล้ชิด ธนาคารบางแห่ง เช่น Bank of America คาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 7 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยยังคงมีอยู่ เนื่องจากขณะนี้เฟดกำลังพยายามรักษาตลาดให้มีเสถียรภาพให้นานที่สุด นอกจากนี้ มีหลายปัจจัยที่คัดค้านการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไป เช่น หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว หากอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป อาจนำไปสู่การผิดนัดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ในทางกลับกัน นักลงทุนควรให้ความสนใจน้อยลงกับสิ่งที่เฟดพูดและให้ความสนใจมากขึ้นกับสิ่งที่เฟดทำ มีข้อความหลายฉบับในอดีตที่ผ่านมา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน ตราบใดที่สิ่งเหล่านี้เป็นลบ มันก็ยังคงเป็นขาขึ้นสำหรับราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยูเครนจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป สหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ส่งกำลังทหาร 100,000 นายตามแนวชายแดนยูเครน และการโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเป็นเวลานาน ปูตินได้รับการกล่าวขานว่าพร้อมที่จะประนีประนอม แต่ยืนยันว่ายูเครนจะต้องไม่เข้าร่วมกับ NATO
นอกจากนี้ ปูตินมองว่าข้อเสนอของมาครงมีประโยชน์ในการหาทางแก้ปัญหาทางการฑูต ในทางกลับกัน Macron เห็นว่ายังมีวิธีแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ เขาพูดถึงความจำเป็นในการ “สร้างยุโรปกับรัสเซีย”
คำถามเดียวคือ สหรัฐฯ มองแบบเดียวกันหรือไม่ตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนประกาศครั้งล่าสุดว่าจะไม่อนุญาต Nord Stream 2 หากรัสเซียบุกยูเครน